เลนส์โปรเกรสซีฟ ดีไซน์ Evolution Enhanceo design
Evolution Enhanceo design
เลนส์โปรเกรสซีฟ ดีไซน์ Evolution Enhanceo design
เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ออกแบบเน้นการมองระยะใกล้กว้างเป็นพิเศษ เพิ่มมุมมองคมชัดเป็นธรรมชาติ สามารถปรับตัวได้ ง่ายดาย และความคมชัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย Freeferm back sunface internal เพิ่มวิสัยทัศษ์การมองเห็นที่ไร้ขอบเขตจำกัด มองโลกกว้างอย่างเป็นอิสระ
Variable corridor : ออกแบบให้สามารพเลือกตามขนาดของกรอบแว่นตา และมี corridor ให้เลือกตามขนาดของกรอบแว่นตา ตั้งแต่ 7 : 9 : 11 : 13
Individual fitting : ออกเบบให้เลนส์ เข้ากับรูปแบบของกรอบแว่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองให้ดีขึ้น หรือ ตามค่า parameter ของรูปทรงกรอบแว่นตา
Optimized individual : คำนวณให้มีมุมมองลานสายตาเท่ากัน ทั้งด้านตรงและด้านข้าง ทำให้พื้นที่การมองระยะกลางและใกล้กว้าง ขึ้น มากกว่าเลนส์ทั่วไป
Atoric Optimized : เทคโนโยยีที่เพิ่มลานสายตา ที่กว้างมากขึ้น ให้ความชัดมากขึ้น
เลนส์โปรเกรสซีฟ ดีไซน์ Evolution Enhanceo design
Evolution Enhanceo design
เลนส์โปรเกรสซีฟ ดีไซน์ Evolution Enhanceo design
เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ออกแบบเน้นการมองระยะใกล้กว้างเป็นพิเศษ เพิ่มมุมมองคมชัดเป็นธรรมชาติ สามารถปรับตัวได้ ง่ายดาย และความคมชัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย Freeferm back sunface internal เพิ่มวิสัยทัศษ์การมองเห็นที่ไร้ขอบเขตจำกัด มองโลกกว้างอย่างเป็นอิสระ
Variable corridor : ออกแบบให้สามารพเลือกตามขนาดของกรอบแว่นตา และมี corridor ให้เลือกตามขนาดของกรอบแว่นตา ตั้งแต่ 7 : 9 : 11 : 13
Individual fitting : ออกเบบให้เลนส์ เข้ากับรูปแบบของกรอบแว่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองให้ดีขึ้น หรือ ตามค่า parameter ของรูปทรงกรอบแว่นตา
Optimized individual : คำนวณให้มีมุมมองลานสายตาเท่ากัน ทั้งด้านตรงและด้านข้าง ทำให้พื้นที่การมองระยะกลางและใกล้กว้าง ขึ้น มากกว่าเลนส์ทั่วไป
Atoric Optimized : เทคโนโยยีที่เพิ่มลานสายตา ที่กว้างมากขึ้น ให้ความชัดมากขึ้น
ต้อหิน (glaucoma)
เป็นโรคตาซึ่งคนที่เป็นส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าตนป่วยเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะในระยะแรกๆ
พอทราบก็มักจะใกล้บอดแล้ว ที่อันตรายที่สุดคือ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตาจะบอดในที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคในแต่ละบุคคลต้อหินเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคต้อ ตามที่คนเรียกกันโดยทั่วๆ ไป ที่พบบ่อยๆ มีต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม และต้อหิน แต่ต้อหินเป็นต้อเพียงชนิดที่ไม่มีตัวต้อให้เห็น เพราะต้อหินเป็นกลุ่มโรคที่มีการทำลายขั้วประสาทตา ซึ่งเป็นตัวนำกระแส
การมองเห็นไปสู่สมอง ซึ่งเมื่อขั้วประสาทตาถูกทำลายจะมีผลทำให้สูญเสียลานสายตา
เมื่อเป็นมากๆ ก็สูญเสียการมองเห็นในที่สุด ซึ่งเป็นการสูญเสียชนิดถาวร ไม่สามารถรักษาให้กลับคืนมามองเห็นได้
ต้อหิน
สาเหตุ
ต้อหินเกิดจากการทำลายขั้วประสาทตา อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุปัจจัยภายนอก หรืออาจพบร่วมกับโรคทางตาอื่นๆ ที่แทรกซ้อนมาจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดรักษาโรคอื่นๆ ในดวงตา หรือแม้แต่เกี่ยวพันกับโรคทางกายอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในตัวบุคคลนั้นๆ ที่ทำให้เกิดการเสื่อมของขั้วประสาทตา ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดและเป็นปัจจัยอย่างเดียวที่ควบคุมเปลี่ยนแปลงได้ ก็คือ ความดันในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากความเสื่อมข้างในลูกตา หรือเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากยาที่ใช้ จากอุบัติเหตุ หรือจากการผ่าตัด น้ำหล่อเลี้ยงภายในลูกตาโดยปกติลูกตาจะมีการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงภายใน ซึ่งสร้างจากบริเวณด้านหลังของม่านตา แล้วไหลออกมาทางช่องด้านหน้า ก่อนที่จะระบายออกไปทางท่อระบายบริเวณมุมตา ในภาวะปกติปริมาณของน้ำหล่อเลี้ยงที่สร้างขึ้นจะสมดุลกับปริมาณที่ไหลออกจากลูกตา ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการคั่งค้างของน้ำภายในลูกตา ความดันภายในก็ปกติ แต่ถ้าหากมีการอุดตันบริเวณที่ท่อระบาย จะทำให้ความดันตาเพิ่มสูงขึ้นได้
อาการ
โรคต้อหินส่วนใหญ่เป็นชนิดไม่มีอาการ การดำเนินของโรคจากเริ่มเป็น จนถึงการสูญเสียการมองเห็น ใช้เวลานานเป็นปีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้อหินที่เกิดจากความเสื่อม ซึ่งไม่มีอาการใดๆ จนกระทั่งสูญเสียการมองเห็น ซึ่งใช้เวลา 5 - 10 ปี จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าจะตรวจพบต้อหินระยะใด เช่น พบตั้งแต่ระยะเพิ่งเริ่มเป็น จะสามารถคุมไว้ได้ และอาจจะไม่สูญเสีย การมองเห็น แต่ถ้าตรวจพบต้อหินระยะที่เป็นมากแล้วหรือระยะท้ายๆ ก็อาจสูญเสียการมองเห็นได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นภายในเวลาเป็นเดือน ก็จะตาบอดได้